Buy real YouTube subscribers. Best price and warranty.
Get Free YouTube Subscribers, Views and Likes

ชัยมงคลคาถา พาหุงมหากา 9 จบ ฉบับสมบูรณ์

Follow
Lucky4U

พาหุงมหากา หรือ ชัยมงคลคาถา กล่าวถึงชัยชนะทั้ง ๘ ครั้งของพระพุทธเจ้า ซึ่งคือบารมีที่มีแรงสั่นสะเทือนสูงสุดที่พระพุทธองค์ได้เคยสร้างไว้ เพื่อเป็นที่พึ่งให้เหล่าสรรพสัตว์ได้ออกจากภัยต่างๆ จึงควรสวดภาวนาเพื่อหยิบยืมบารมีที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้มาหนุนนำดวงดาวทั้ง 8 รอบตัว เพื่อให้เกิดชัยชนะรอบทิศด้วยมงคลบารมีของพระพุทธองค์ . . . จึงควรน้อมเข้ามาสู่ตน

๑. ชนะมาร ด้วยบารมี
ทรงเอาชนะพญามารพร้อมทั้งเสนามาร ที่มาผจญเพื่อขัดขวางไม่ให้พระองค์ตรัสรู้ ด้วยทานบารมีที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติและได้กรวดน้ำไว้ในแผ่นดิน แม่พระธรณีมาเป็นพยานในทานบารมีนั้น ได้บีบน้ำออกจากมวยผมซึ่งมากมายมหาศาลไหลบ่าเข้าท่วมกองทัพเสนามาร จนกระทั่งพญามารยอมแพ้

๒. ชนะยักษ์ยักษ์อาฬวก ด้วยขันติธรรม
ยักษ์ตนหนึ่งชื่ออาฬวกะ มีนิสัยดุร้ายและมีฤทธิ์มาก บีบบังคับพระเจ้าอาฬวีให้ส่งคนไปเป็นอาหารวันละคน เมื่อหาคนส่งไปไม่ได้พระเจ้าอาฬวีได้ส่งพระโอรสของพระองค์ไป พระพุทธเจ้าทรงทราบ จึงเสด็จไปปราบด้วยขันติธรรม ทำให้ยักษ์เลิกทำปาณาติบาต และช่วยเหลือพระราชกุมารไว้ได้

๓. ชนะผญาช้างนาฬาคีรี สัตว์ดุร้าย ด้วยเมตตา
ครั้งหนึ่งพระเทวทัตคิดจะปรงพระชนม์พระพุทธเจ้าเพื่อขึ้นเป็นใหญ่แทน จึงจ้างให้คนมอมเหล้าช้างนาฬาคีรีซึ่งเป็นช้างที่ดุร้าย ตัวใหญ่และกำลังตกมัน แล้วปล่อยให้ช้างวิ่งมาหมายที่จะขย้ำพระพุทธองค์ให้ตาย แต่เมื่อพระพุทธองค์ทรงแผ่เมตตาจิตเข้าไปดับไฟแห่งโทสะในใจของช้าง ทำให้ช้างสร่างเมาได้สติกลายเป็นสัตว์อ่อนโยน เข้ากราบแทบเท้าพระองค์

๔. ชนะโจรองคุลิมาล ด้วยฤทธิ์
สมัยหนึ่งมีมหาโจรคนหนึ่ง ฆ่าคนแล้วตัดนิ้วมือมาร้อยเป็นพวงมาลัยห้วยคอเขาฆ่าคนไปถึง ๙๙๙ คน อีกคนเดียวจะครบ ๑,๐๐๐ ตามกำหนด คนสุดท้ายที่จะฆ่าคือแม่ของเขา พระพุทธเจ้าทรงทราบจึงเสด็จไปปรากฏตัวให้เห็น วางอุบายให้มหาโจรนั้นวิ่งตามจนเหนื่อยล้าและมีจิตอ่อนโยนลง จึงทรงแสดงธรรมโปรดให้ได้สติกลับเป็นคนดีและออกบวช

๕. ชนะนางจิญจมาณวิกา คนใส่ร้าย ด้วยสันติ
สมัยหนึ่งนางกิญจมาณวิกา สาวกพวกเดียรถีย์ได้ผูกท่อนไม้ไว้ที่ท้อง แล้วกล่าวต่อหน้าพุทธบริษัทว่าพระพุทธเจ้าทำตนท้องแล้วไม่รับผิดชอบ พระพุทธองค์ตรัสด้วยความสงบนิ่งว่า "ความจริงเป็นเช่นไร เจ้ากับเราเท่านั้นที่รู้ดี" นางได้ยินดังนั้นก็แสร้งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ทำให้ไม้ที่ผูกไว้หลุดหล่นลงพื้น ประชาชนเมื่อรู้ความจริงก็พากันลากตัวนางออกไปจากวัด พอพ้นประตูวัดนางก็ถูกแผ่นดินสูบไปเกิดในนรกอเวจี

๖. ชนะสัจจนิครนถ์ คนมักอวด ด้วยปัญญา
สมัยหนึ่งมีนักบวชนอกศาสนา ชื่อสัจจกนิครนถ์เป็นนักโต้วาทีที่มีฝีปากกล้า โต้กับใครไม่เคยแพ้ วันหนึ่งมาาขอโต้วาทะกับพระพุทธเจ้า เขาได้กล่าวหักล้างคำสอนของพระพุทธองค์ที่สอนว่าสรรพสิ่งเป็นอนัตตานั้นผิด เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นผู้ทำกรรมและผู้รับกรรมก็จะไม่มี พระพุทธองค์ย้อนถามว่าถ้าตัวตนนี้เป็นของเรานั้นไซร้ เราสามารถบังคับให้ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายได้ไหม ทำให้สัจจกนิครนถ์จนมุมและพ่ายแพ้กลับไป

๗. ชนะพญานาคนันโทปนันทะ ด้วยฤทธิ์ของพุทธสาวก
สมัยหนึ่ง มีนาคชื่อนันโทปนันทะ กำลังดื่มเหล้าเคล้านารีอยู่ เห็นพระพุทธเจ้าเหาะมากับเหล่าสาวก ก็รู้สึกขุ่นเคืองใจว่าพระพุทธเจ้ากับเหล่าสาวกเอาธุลีที่เท้ามาโปรยใส่หัวตน จึงแปลงกายเป็นนาคใหญ่พันกายรอบเขาสิเนรุ แผ่พังพานขวางทางไม่ให้เสด็จไป พระพุทธองค์ทรงส่งพระมหาโมคคัลลานะผู้เป็นเลิศด้านแสดงฤทธิ์ไปปราบ จนนาคยอมแพ้ขอขมาและหลีกทางให้โดยดี

๘. ชนะพกะพรหมผู้หลงผิด ด้วยปัญญารู้แจ้งและแสดงให้เห็นจริง
สมัยหนึ่ง พกพรหมเสวยสุขมานาน ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงใดเกิดแก่ร่างกายและทิพย์สมบัติของตน จึงคิดว่า "คำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า สรรพสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นี่สงสัยจะผิด เพราะผ่านมาตั้งหลายหมื่นปีตัวเราและทิพยสมบัติของเราก็ยังคงเดิม" พระพุทธองค์ทรงทราบถึงความคิดของพวกพรหมเช่นนั้นจึงเสด็จไปโปรด และทรงชี้แจงให้เห็นความจริง ว่าไม่มีสิ่งใดหลุดพ้นจากกฎไตรลักษณ์ไปได้รวมถึงตัวพกพรหมเองก็เช่นเดียวกัน ทำให้พกพรหมยอมรับและขอถึงพระองค์เป็นสรณะตลอดไป

และท้ายสุดผลของการสวดพุทธชัยมงคลคาถาเป็นประจำ
จะส่งผลดีอย่างมากมายทุกด้าน ดังพุทธสุภาษิต

เอตาปิ พุทฺธชยมงฺคล อฏฺฐคาถา
โย วาจโน ทินทิเน สรเตมตนฺที
หิตฺวานเนกวิวิธานิ จุปทฺทวานิ
โมกขํ สุขํ อธิคเมยฺย นโร สปญฺโญ

แปลยกศัพท์ว่า
นรชนใด มีปัญญา ไม่เกียจคร้าน
สวดก็ดี ระลึกก็ดี ซึ่งพระพุทธชยมงคล ๘ คาถา
เหล่านี้ทุก ๆ วัน
นรชน ละเสียได้
ซึ่งอุปัทวอันตรายทั้งหลาย
เป็นอเนกคือมิใช่อย่างเดียว
พึงบรรลุ ซึ่งสุข
คือความพ้นทุกข์ ซึ่งเป็นสุขแท้จริง นั่นแล

ที่มา http://www.lucky4u.org/b/172

posted by Portele0