Buy real YouTube subscribers. Best price and warranty.
Get Free YouTube Subscribers, Views and Likes

CAPM คืออะไร? ความเสี่ยงและผลตอบแทนสัมพันธ์กันอย่างไร? เอามาใช้คิดราคาหุ้นได้ไหม?

Follow
MS CHANNEL

ลงทุนอะไรดี? ทำความรู้จักกับพื้นฐานการลงทุน CAPM (Capital asset pricing model)
การลงทุนมีความเสี่ยง เป็นคำที่ใครหลายๆคนเคยได้ยิน แต่การลงทุนต่างๆ นั้นมีความเสี่ยงแตกต่างกันออกไป ดังคำกล่าวที่ว่า High Risk, High Return ถ้าความเสี่ยงมาก ผลตอบแทนก็ควรจะต้องมากเช่นกัน ไม่งั้นจะเสี่ยงไปทำไม ใช่มั้ย? CAPM คือโมเดลที่ใช้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงของหุ้นและผลตอบแทนที่ควรได้รับ ซึ่งถ้าผมเปิดสมการนี้ให้ดู หลายๆคนที่ไม่ชอบสมการอาจจะปิดหนีเลยก็ได้ อย่าเพิ่งปิดครับ เราลืมสมการนี้ไปก่อน แล้วมาดูภาพง่ายๆกันดีกว่าเนาะ


Rf หรือ Risk Free คืออะไร?
อันดับแรกผมขอพูดถึงการลงทุนแบบไร้ความเสี่ยงก่อน(จริงๆอาจจะเสี่ยงบ้างแต่น้อยมาก) ซึ่ง เราจะเรียกการลงทุนนี้ว่า “risk free” เช่น อะไรครับ? ฝากธนาคาร ประจำ ออมทรัพย์ พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้นน่ะครับ พวกนี้แทบจะไม่เสี่ยงเลย เงินคุณไม่ลดแน่นอนครับ โดยเวลาที่เราเอาเงินไปฝากธนาคารเราก็หวังจะได้ดอกเบี้ยใช่ไหม ดอกเบี้ยนี้ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า “interest”

ลงทุนในหุ้นดีไหม?
ถ้าเราไม่ฝากแบงค์ เราไปลงทุนในหุ้น ผลตอบแทนที่เราจะได้มันจะไม่ใช่ดอกเบี้ยคับ เพราะเราไม่ได้เป็นเจ้าหนี้แล้วแต่เราเป็นเจ้าของร่วม ฝรั่งจะเรียกว่า “Expected Return” แปลว่า ผลตอบแทนที่เราคาดหวังนั่นเอง โดยผลตอบแทนของหุ้นนั้นส่วนใหญ่เราจะได้เป็น Captical gain/loss (ส่วนต่างมูลค่าหุ้น) หรือ Dividend (เงินปันผล) นั่นเอง เริ่มผูกเข้ากับ High Risk, High Return ได้หรือยังครับ แล้วเสี่ยงแค่ไหนถึงเรียกสูง เสี่ยงแค่ไหนปานกลาง แล้วเราควรจะได้ผลตอบแทนเท่าไรจากการลงทุนในหุ้นๆนึง ที่ไม่ได้อยู่ใน SET100(ใครไม่รู้จัก Set100 ยกมือขึ้นคับ) ผมเชื่อว่าคนที่มาดูช่องนี้ควรจะต้องมีความรู้พื้นฐานมาบ้างแล้ว การลงทุนในหุ้น SET 100 นั้น ตามทฤษฎีแล้วถือว่ามีความเสี่ยงปานกลาง ถือว่าเป็นหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐ่านค่อนข้างแน่น แน่นหมายถึงไม่เจ๊งง่ายๆ โดยทั่วๆไปก็ไม่ควรได้ผลตอบแทนต่ำกว่า 8% นะครับ

หุ้นความเสี่ยงสูง
เรากำลังพูดถึงหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นทั่วๆไปในตลาด ซึ่งก็ต้องได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าโดยจะเอา Risk Premium คูณกับค่าเบต้าเข้าไป เพื่อให้ผลตอบแทนมันสูงขึ้นนะคับ(ไม่เอา Risk Free คูณเข้าไปนะ ไม่งั้นสูงเว่อ) ทีนี้ก็ใส่ในสูตรก็ได้ Cost of Equity มาแล้วคับ

posted by ethemagaggefe2h